การให้เช่าเครื่องเสียง สำหรับงานกลางแจ้ง
1. เครื่องผสมสัญญาณเสียงหรือ Audio Mixer
อันที่ใหญ่ๆปุ่มเยอะๆ แล้วมีเข็มกระดิก หรือเม็ดไฟวิ่งเขียว เหลืองแดงนั่นแหละ ไม่รู้จะปรับอะไรกันนักหนา ส่วนคนที่คุมเครื่องเสียงก็ขึ้นอยู่กับงานแต่ละงานว่าเป็นงานแนวไหน ค่าแรงก็จะแพงตามความยากง่ายของงาน ถามว่าทำไมมันต้องตัวใหญ่ขนาดนั้น ก็เพราะมันใช้กับไมโครโฟนจำนวนมากนั่นยังไง 32ช่อง 48ช่อง 56ช่อง แล้วช่องสัญญาณขาออกก็ยังต้องมีจำนวนมากด้วย เพื่อส่งไปยังลำโพงหลัก ลำโพงนักดนตรี ไลน์เครื่องดนตรี ระบบบันทึกเสียง หรือระบบถ่ายทอดเสียงด้วยเช่นกัน
2. ไมโครโฟน Microphone
ขึ้นอยู่กับจำนวนเครื่องดนตรี โดยมากแบ่งเป็น 2 ชนิด
-แบบใช้กระแสไฟฟ้าเลี้ยง(Phantom +48V.) เราเรียกว่า คอนเดนเซอร์ไมค์
-แบบไม่ต้องใช้กระแสไฟฟ้าเลี้ยง เราเรียกว่า ไดนามิคไมค์
จำนวนไมโครโฟนนับจากชิ้นของเครื่องดนตรีที่จะต้องจ่อ เช่นกลองใช้ไมค์ 8 ตัว นักร้อง 4 คน เครื่องเคาะ 4 ตัว กีตาร์ไฟฟ้า 2 ตัว เครื่องเป่า 3 ตัว นี่คร่าวๆนะ
3. เครื่องเล่นซีดี CD,MP3 Player
ในงานเครื่องเสียงกลางแจ้งขนาดใหญ่ อาจเอาไว้เปิดเพลงเพื่อทดสอบระบบ หรือเอาไว้เปิด Backing Track ก็ได้เช่นกัน มีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อน ขอแนะนำเป็นรุ่นที่ DJ ใช้จะดีมาก เพราะรวดเร็วทันใจ หรือใช้โน้ตบุคในการเปิดซาวต่างๆ แทนก็ได้ แต่คุณภาพเสียงที่ได้จะสู้เครื่องเล่นไม่ได้
4. เครื่องชดเชยความถี่ หรือ Equalizer : EQ
ซึ่งจะเป็นแบบ Graphic EQ ที่มี31Band (31ก้านปรับ) แต่จะเห็นว่า มันไม่ได้มีแค่1ตัว มันมี 2 ตัว 3 ตัว 4 ตัว มากน้อยตามจำนวนลำโพงหลักที่หันหาคนดู และลำโพงที่ป้อนให้กับนักดนตรีบนเวที ถ้าสมัยนี้อาจจะใช้เป็นมิคซ์ดิจิตอลก็จะหมดปัญหาเรื่อง EQ
5. Cross Over หรือ DSP (Digital Signal Processor) หรือ System Controller
แล้วแต่ผู้ผลิตจะเรียก มันคืออุปกรณ์ตัดแบ่งความถี่ ให้เหมาะสมกับแอมป์และลำโพงนั่นเอง ซึ่งในระบบเสียงกลางแจ้งขนาดใหญ่ มีลำโพงอยู่หลายประเภทด้วยกัน เช่น ลำโพงเสียงต่ำ(Sub woofer) ลำโพงเสียงทุ้ม(Low) ลำโพงเสียงกลาง(Mid) และลำโพงเสียงแหลม(Hi) ซึ่งจะเห็นว่า มี4ทางเข้าไปแล้ว บางยี่ห้อภายในอุปกรณ์ตัวนี้ยังประกอบไปด้วย 31 Band EQ,Delay และ Limiter ป้องกันลำโพงด้วยก็มี มากกว่านั้น บางผู้ผลิตยังสามารถสั่งงานผ่านทางระบบควบคุมแบบไร้สายได้อีกด้วย
6. Power Amp เครื่องขยายเสียงหรือเรียกสั้นๆ ว่า แอมป์
ปัจจุบันมีวิวัฒนาการไปไกลมาก บางรุ่นเน้นน้ำหนักเบา บางรุ่นเน้นกำลังขับมหาศาล บางรุ่น มีDSPภายใน ทำให้ไม่จำเป็นต้องมี Graphic EQ หรือ Cross Over ภายนอกเลยยังได้ จำนวนแอมป์ในระบบเสียงกลางแจ้งขนาดใหญ่ นับตามจำนวนลำโพง หรือจำนวนคอลัมน์ที่แขวนใช้งานจริง เช่น ลำโพง Low Mid Hi ใช้แอมป์ 3 ช่อง แต่มีการแบ่ง เป็นชุด ยิงไกล ยิงกลาง ยิงใกล้ ก็ต้องใช้แอมป์มากถึง 9 ช่อง ต่อข้างเลยก็มี จำนวนยังจะเพิ่มมากไปอีกตามจำนวนลำโพงมอนิเตอร์ของนักดนตรี (Stage monitor) ซึ่งจะถูกกำหนดด้วย จำนวน Aux send จาก Mixer ด้วยเช่นกัน
7. ลำโพง Loudspeaker
ซึ่งในงานระบบเสียงกลางแจ้งขนาดใหญ่นั้น ลำโพงต้องมีความดังมหาศาล เพื่อต่อสู้กับสิ่งแวดล้อม และเสียงรบกวนพื้นฐาน (Noise floor) ในยุคปัจจุบัน แต่ละบริษัทต่างแข่งขันในการผลิตลำโพงที่มีขนาดเล็กลง กินวัตต์น้อยลง แต่ให้ความดังที่มากขึ้น รวมทั้งพยายามที่จะทำให้ผู้รับฟังในพื้นที่นั้นๆ ได้รับฟังเสียงที่มีความดังสม่ำเสมอ หรือใกล้เคียงกันอีกด้วย ด้วยเทคโนโลยีของลำโพงที่เรียกว่า Line Array เป็นต้น